สูตรล้วงหัวใจผู้บริโภค หลอมรวมสื่อยุคดิจิทัล
ณัฐวีร์ ณีว มาวิจักขณ์ ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาและการตลาด กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) เผยถึงการเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคในปีนี้ว่าการใช้สื่ออินเทอร์เน็ทถูกเรียกว่าเป็น “The Now Generation” จากการสำรวจ 4 ภูมิภาคของไทยกระจายไปทั้ง 20 จังหวัดเพื่อค้นหาความแตกต่างของผู้ใช้อินเทอร์เน็ทหน้าใหม่ (New Internet User) ที่ไม่ว่าจะถูกบีบบังคับให้ใช้งานจากตำแหน่งหน้าที่การงาน ใช้อินเทอร์เน็ทเพื่อทำการค้า หรือผู้ที่เกิดและเติบโตมากับความเคยชินในการใช้อินเทอร์เน็ท (Born Internet User) พวกเขามีวิธีการใช้อินเทอร์เน็ทที่แตกต่างกันอย่างไร
สิ่งที่ กรุ๊ปเอ็ม ค้นพบคือ พวกเขาเหล่านี้ถูกอินเทอร์เน็ทเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตจากเรื่องที่ไม่เคยทำกลายเป็นเรื่องธรรมดาในการใช้ชีวิต หลายคนค้นพบสิ่งที่เป็นตัวตนที่พวกเขาให้ความสนใจ เต็มไปด้วยพลังต่อสิ่งนั้น (Passion) เช่น ป้าขายกล้วยแขกเพิ่งรู้ว่าตัวเองติดซีรีส์เกาหลีอย่างบ้าคลั่ง หรือชาวเขาคนหนึ่งที่อยู่จังหวัดเชียงราย จากอดีตมีอาชีพเลี้ยงไก่ ปลูกกาแฟพอเข้ามาในโลโซเชียลเพิ่งค้นพบว่าตัวเองรักการวิ่งมาราธอน และชอบเข้าร่วมการจัดการแข่งขัน จึงกลายเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานวิ่งมาราธอนภายในจังหวัดเป็นต้น
ฉะนั้น อายุ เพศ การศึกษา รายได้ ตามหลักประชากรศาสตร์ (Demographic) เส้นแบ่งแยกเซกเมนท์ในแบบเดิม ๆ จะใช้ไม่ได้ผลแล้วกับวิถีชิวิตและไลฟ์สไตล์ในยุคปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากป้าคนที่ติดซีรีส์เกาหลีกลายเป็นติ่งเกาหลีเช่นเดียวกันกับน้อง ๆ ระดับมัธยมแบบไม่เคอะเขินจากว่าวัยจะเป็นข้อจำกัดความสนใจ
โดยสื่อสังคมออนไลน์ไปปลุกพลังความหลงรักในกิจกรรมบางอย่างในตัวพวกเขาเหล่านั้นให้ลุกโชนขึ้นมา ดังนั้นเมื่อพูดถึงไลฟ์สไตล์คน จะมองลึกไปถึงรสนิยมชมชอบ ความรู้สึกนึกคิด กิจกรรมที่ทำ สังคมที่เชื่อมต่อกับพวกเขา
เมื่อพูดถึงคนหนึ่งคน จึงต้องมีองค์ประกอบความสนใจหลากหลายมิติ (All About Me) การเปิดการรับรู้ข้อมูลการสื่อสารไปหาตัวตนของพวกเขานั้นเพราะอินเทอร์เน็ทได้ดึงเวลาให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับความสนใจเฉพาะตัวเองมากขึ้น แทนจะใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ ในวันหยุดเทศกาลที่ไปร่วมงานรื่นเริงอาจจะปรับเปลี่ยนไปสู่การวางแผนการท่องเที่ยว หรืออื่น ๆ ที่พวกเขาคลั่งไคล้
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการร่วมมือกัยทำงานมากขึ้น (Collaborations) ระหว่างคนที่ลืมตาขึ้นมาพร้อมใช้อินเทอร์เน็ทได้อย่างกลมกลืน กับคนรุ่นก่อนที่เพิ่งหัดให้งานเพื่อพัฒนาสินค้า และบริการใหม่ ๆ เช่น การร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมและสินค้าชุทชน หรือพ่อกับแม่ให้รุ่นลูกสร้างหน้าเพจขึ้นมาเพื่อขายข้าวอินทรีย์หรือสินค้าแฮนด์เมดในครอบครัวผ่านช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียและดิจิทัลต่าง ๆ ที่คนรุ่นใหม่ทำได้ดีกว่าจึงต้องอาศัยความคล่องตัวคนรุ่นใหม่มาร่วมมือกับคนรุ่นเก่า
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561
