เจาะ MARKETING TRENDS 2021 ไปกับงาน CREATIVE TALK CONFERENCE 2021
INFLUENCER ยังได้รับความนิยม AWARENESS ยังคงจำเป็นและ ONLINE ยังคงเติบโต
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ในปัจจุบัน เป็นเครื่องชี้วัดถึงความยากลำบากในการทำธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ในขณะเดียวกันมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ธุรกิจต้องหันมาใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่แปลกใหม่ เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม้กลุ่มเป้าหมายจะมีพฤติกรรมที่อยู่กับบ้าน โดยเฉพาะการใช้กลยุทธ์ Push & Pull Marketing ที่แตกต่างไปจากเดิม
ในงาน Creative Talk Conference 2021 หรือ CTC2021 มีการพูดถึง Marketing Trends สำหรับปี 2021 ที่กำลังเกิดขึ้นโดยได้รับเกียรติจาก คุณศิวัตร เชาวรียวงษ์ ประธานกรรมการ กรุ๊ปเอ็ม (GroupM Thailand) และนายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT และคุณณธิดา รัฐนาวุฒิ ผู้ก่อตั้ง Marketing Opps! มาเป็นผู้ชี้ให้เห็นถึงเทรนด์ของการทำการตลาดที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
สำหรับมุมมองของคุณศิวัตรมองว่า ปีนี้อาจจะไม่มีอะไรมากนักแต่จะเป็นการดำเนินการต่อจากปีที่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมาการขายของออนไลน์เติบโตขึ้นอย่างมาก สิ่งนี้เกิดจากผู้บริโภคมีความต้องการ หรือ Demand (ดีมานด์) ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมากขึ้น รวมไปถึงก่อให้เกิดตลาดออนไลน์ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ในปีนี้การซื้อขายออนไลน์จะขยายไปในหลายช่องทาง เช่น ธนาคาร ผู้ขายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้สำนักงานก็ทำตลาดด้านออนไลน์ หรือไม้แต่ธุรกิจ Delivery ก็หันมาขายออนไลน์ในรูปแบบ Grocery Online
ขณะที่คุณณธิดาชี้ว่า การขายออนไลน์คือการมองหาทางรอดของธุรกิจที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤต ธุรกิจไหนที่เข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์แล้วแต่ยังไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ก็ยังถือว่าธุรกิจนั้นยังไม่สามารถเข้าสู่ธุรกิจออนไลน์ได้เต็มที่ ผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมและสามารถที่จะรับมือกับปริมาณของลูกค้าที่พุ่งเข้ามาอย่างถาโถม โดยหลายธุรกิจอาจแปรเป็นการขายออนไลน์ในรูปแบบของ Direct to Consumer
นอกจากนี้ Influencer ยังคงช่วยให้การขายออนไลน์เติบโตขึ้นและก่อให้เกิดการขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Influencer จะยังคงมีความสำคัญอยู่ในปีนี้ โดยเทรนด์ของ Influencer จะเน้นการสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบ Entertainment มากขึ้น และตัว Influencer เองก็จะเข้าสู่การขายมากขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น
ด้านคุณศิวัตรยังมองว่า TikTok มีส่วนช่วยให้ Influencer สร้างเทรนด์แบบ Entertenement Content เพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างไปจากแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ เพราะเมื่อธุรกิจลดการใช้มีเดียหรือสื่อก็จะไปเพิ่มความสำคัญให้กับการขายแบบ Directo to Consumer โดย Influencer จะเป็นตัวกลางที่ช่วยให้ผู้บริโภคหรือลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งธุรกิจสามารถจ่ายค่าตอบแทนให้กับ Influencer ในแบบ Cost per Click และช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถประหยัดเงินค่าใช้จ่ายด้านมีเดียลงได้
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการยังคงต้องเน้นการสร้างแบรนด์ เนื่องจากคู่แข่งจะเน้นกลยุทธ์ลดราคาและโปรโมชั่นอย่างรุนแรงเพื่อสร้างยอดขาย ซึ่งแบรนด์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หากธุรกิจเลือกที่จะไม่ทำแบรนด์ก็อาจจะเสียโอกาสให้กับคู่แข่งรายใหม่ที่สามารถเข้าถึงสื่อได้ง่าย โดยผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อแบรนด์ที่ตนเองรู้จักมากกว่าแค่เห็นโปรโมชั่น ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องคำนึงถึงการวัดผลในการสร้าง Brand Awareness ด้วย
ขณะที่คุณณธิดามองว่า Data Driven ก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น หลายคนเริ่มมองเห็นสินค้าที่เน้นเรื่องของ Personalisation มากขึ้นทั้งในรูปแบบสินค้าและบริการ โดยปีนี้ทั้งคุณณธิดาและคุณศิวิตรต่างมองว่า ในการระบาดรอบใหม่นี้มาตรการของทางรัฐจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องพร้อมที่จะรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง ผู้ประกอบการจะต้องมีแผนสำรองรองรับไว้หลาย ๆ รูปแบบเนื่องจากไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
คุณณธิดายังมองว่า ผู้บริโภคพร้อมที่จะเปลี่ยนแบรนด์เสมอ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่จะคิดว่าจะใช้เงินไปกับอะไรและเพื่ออะไร ซึ่งการสร้างการรับรู้หรือ Awareness นั้นเป็นการทำให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากลูกค้าจำแบรนด์นั้นไม่ได้ก็จะเปลี่ยนไปซื้อแบรนด์อื่นที่คุ้นกว่าทันที
ในทางกลับกันลูกค้าในยุคปัจจุบันก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแบรนด์อีกทันทีที่รู้สึกไม่ประทับใจกับประสบการณ์ที่มีกับแบรนด์ โดยสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการก็คือ ราคาที่ใช่ แบรนด์ที่ชอบ และประสบการณ์ที่ดี
สุดท้ายคุณศิวัตรกล่าวให้กำลังใจให้ผู้ประกอบการทุกคนสู้ต่อไปในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ส่วนคุณณธิดามองว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากของธุรกิจ จึงต้องมองหาโอกาสที่ดีในการพัฒนาธุรกิจ โดยยังคงต้องนำทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมดมาใช้ให้เกิดประโยชน์หรือขยายออกมาเป็นธุรกิจใหม่ ตัวอย่างที่มี เช่น Major นำป๊อปคอร์นมาจำหน่ายนอกโรงภาพยนตร์ หรือบาร์บีคิวพลาซ่าที่ต่อยอดสินค้าด้วยน้ำพริก